วันจันทร์ที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2561

การจัดการงานอาชีพ

🎆การจัดการงานอาชีพ🎆

🎇ความหมายของอาชีพ
          อาชีพ  คือการทำมาหากินของมนุษย์  เป็นการแบ่งหน้าที่การทำงานของคนในสังคม  และทำให้ดำรงอาชีพในสังคมได้  บุคคลที่ประกอบอาชีพจะได้ค่าตอบแทน หรือรายได้ที่จะนำไปใช้จ่ายในการดำรงชีวิต  และสร้างมาตรฐานที่ดีให้แก่ครอบครัว ชุมชน และประเทศชาติ
ความจำเป็นของการประกอบอาชีพมีดังนี้
1.  เพื่อตนเอง การประกอบอาชีพทำให้มีรายได้มาจับจ่ายใช้สอยในชีวิต
2.  เพื่อครอบครัว ทำให้สมาชิกของครอบครัวได้รับการเลี้ยงดูทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
3.  เพื่อชุมชน ถ้าสมาชิกในชุมชนมีอาชีพและมีรายได้ดีจะส่งผลให้สมาชิกมีความเป็นอยู่ดีขึ้น อยู่ดีกินดี ส่งผลให้ชุมชนเข้มแข็งและพัฒนาตนเองได้
4.  เพื่อประเทศชาติ  เพื่อประชากรของประเทศมีการประกอบอาชีพที่ดี  มีรายได้ดี  ทำให้มีรายได้ที่เสียภาษีให้กับรัฐบาลมีรายได้ไปใช้บริหารประเทศต่อไป
มนุษย์ไม่สามารถผลิตสิ่งต่างๆมาสนองความต้องการของตนเองได้ทุกอย่างจำต้องมีการแบ่งกันทำและเกิดความชำนาญ จึงทำให้เกิดการแบ่งงานและแบ่งอาชีพต่างๆขึ้น สาเหตุที่ต้องมีการแบ่งอาชีพมีดังนี้
1.  ความรู้ความสามารถของแต่ละคนแตกต่างกัน
2.  ตำแหน่งทางภูมิศาสตร์และภูมิประเทศที่แตกต่างกัน
3.  ได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ที่แตกต่างกัน

🎇การแบ่งงานและอาชีพให้เกิดประโยชน์ ดังนี้
1.  สามารถตอบสนองความต้องการซึ่งกันและกันได้
2.  ได้ทำงานที่ตนเองถนัด
3.  ทำให้กิดการขยายตัวของธุรกิจในด้านต่างๆ

🎇การประกอบอาชีพของคนไทย
การทำมาหากินของคนไทยสมัยก่อน คือการทำไร่  ทำนา  ทอผ้า  ทำเครื่องจักสานไว้ใช้ที่เหลือก็จะจำหน่ายในชุมชน  คนไทยบางกลุ่มจะเป็นข้าราชการเมื่อบริษัทต่างชาติมาลงทุนในประเทศไทย ทำให้มีการจ้างงาน และมีอาชีพให้คนไทยเลือกทำมากขึ้น

🎇ลักษณะอาชีพของคนไทย
1.  งานเกษตรกรรม เช่น  ปลูกพืช  เลี้ยงสัตว์  การประมง
2.  งานอุตสาหกรรม เป็นงานที่เกี่ยวข้องกับความถนัดด้านช่างสาขาต่างๆ และเครื่องจักรเพื่อผลิตสินค้าและบริการต่างๆ
3.  งานธุรกิจ เป็นงานด้านการค้าขาย  การทำบัญชี การจัดการธุรกิจ  การติดต่อสื่อสารเทคโนโลยีสารสนเทศ
4.  งานคหกรรม  เป็นงานที่เกี่ยวข้องกับการประกอบอาหาร เย็บปักถักร้อย  ตกแต่งบ้าน
5.  งานศิลปกรรม  เป็นงานที่มีความละเอียดอ่อน ความคิดสร้างสรรค์ด้านศิลปกรรมของไทย เช่น งานหัตถกรรม  ประติมากรรม  จิตรกรรม

🎇ปัจจัยที่ส่งเสริมให้เกิดความสำเร็จในงานอาชีพ
🎄1.  ความต้องการมุ่งความสำเร็จ (Need for Achivement)  ในการทำงานเมื่อพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้วและมองเห็นโอกาสแห่งความเป็นไปได้  ผู้ประกอบการจะต้องมุ่งมั่นใช้กำลังกาย กำลังความคิด สติปัญญาและความสามารถทั้งหมด  พร้อมทั้งทุ่มเทเวลาให้กับงาน  โดยไม่คำนึงถึงความยากลำบาก  เพื่อให้งานบรรลุความสำเร็จที่มุ่งหวังไว้  ผู้ประกอบการจะต้องเรียนรู้ถึงความผิดพลาดที่ผ่านมาเพื่อแก้ไขให้เกิดความสำเร็จ  พอใจ  ภูมิใจที่งานออกมาดี  แต่สิ่งที่สำคัญคือ  จุดมุ่งหมายทางธุรกิจ  มิได้อยู่ที่กำไร  แต่จะต้องทำเพื่อขยายความเจริญเติบโตของกิจการ  กำไรเป็นเครื่องสะท้อนว่าทำได้  และไม่เพียงสนใจต่อการบรรลุเป้าหมายเท่านั้น  แต่จะต้องให้ความสำคัญต่อวิธีการหรือกระบวนที่ทำให้บรรลุเป้าหมายด้วย
🎄2.  มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ (Creativity  Thinking) การจะเป็นผู้สำเร็จในงานอาชีพได้นั้น  จะต้องเป็นผู้ที่มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ไม้พอใจในการทำสิ่งซ้ำๆเหมือนเดิมตลอดเวลา  แต่เป็นผู้ที่ชอบนำประสบการณ์ที่ผ่านมาประยุกต์  สร้างสรรค์  หาวิธีใหม่ที่ดีกว่าเดิม  สามารถหาแนวทางพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือบริการ  ปรับปรุงกระบวนการดำเนินการอยู่ตลอดเวลา กล้าที่จะผลิตสินค้าที่แตกต่างจากเดิม กล้าใช้วิธีขายที่ไม่เหมือนใคร  กล้าประดิษฐ์  กล้าคิดค้นสิ่งที่แปลกใหม่เข้าสู่ตลาด  สามารถคิดค้นประดิษฐ์เครื่องจักรเครื่องมืออุปกรณ์ใหม่ๆ มาใช้ในการผลิต  สามารถนำเทคโนโลยีใหม่ๆมาใช้  รวมทั้งแสวงหาวัตถุดิบใหม่ๆมาทดแทนของเดิม  รู้จักปรับปรุงกระบวนการดำเนินงาน  นำระบบการจัดการสมัยใหม่ที่มีประสิทธิภาพมาใช้เพื่อลดต้นทุน  ความคิดสร้างสรรค์เหล่านี้  อาจเกิดขึ้นด้วยตัวเอง หรือเอาแนวคิดมาจากนักประดิษฐ์ นักวิจัยหรือผู้เชี่ยวชาญก็ได้
🎄3.  รู้จักผูกพันต่อเป้าหมาย (Addicted to Goals) เมื่อตั้งเป้าหมาย  ผู้ประกอบการจะต้องทุ่มเททุกอย่างเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย  เป้าหมายทุกเป้าหมายล้วนจะต้องเอาชนะทั้งสิ้น  มีความคิดผูกพันที่จะเอาชนะ  จนสามารถวางแผนกลยุทธ์ไว้ล่วงหน้า  มีการวิเคราะห์ปัญหา อุปสรรค ขัดขวางในการไปสู่เป้าหมาย  เตรียมป้องกันที่จะเอาชนะอุปสรรค  ที่คาดว่าจะทำให้เกิดความล้มเหลว  และหาหนทางแก้ไขเมื่อประสบความเหลว  และในขณะเดียวกันการมองโลกในแง่ดีมีความหวัง  มุ่งมั่นต่อไปเป้าหมายของความสำเร็จจะมองเห็นในอนาคต
🎄4.  มีความสามารถในการบริหารงานและมีความเป็นผู้นำที่ดี (Management and Leadership Capability)  มีลักษณะการเป็นผู้นำ  รู้จักหลักการบริหารจัดการที่ดี ภาวะการเป็นผู้นำจะแตกต่างไปตามระยะการเจริญเติบโตของธุรกิจ  ในระยะเริ่มทำธุรกิจ จะต้องรับบทบาทการเป็นผู้นำจะแตกต่างไปตามระยะการเติบโตของธุรกิจ  ในระยะเริ่มทำธุรกิจ  จะต้องรับบทบาทเป็นผู้นำที่ลงมือทำทุกอย่างด้วยตนเอง  ต้องทำงานหนักเพื่อบรรลุความสำเร็จ  เอาใจใส่ผู้ร่วมงาน  วางแผนทางการทำงาน  ให้คำแนะนำและให้ผู้ร่วมงานรับค่าสิ่งด้วยความเต็มใจในการปฏิบัติงาน  เป็นผู้กำกับดูแลอย่างใกล้ชิดและเป็นกันเองจะทำให้การดำเนินงานเป็นไปด้วยดี  ต่อมาเมื่อกิจการเติบโตขึ้น  การบริหารงานก็จะเปลี่ยนแปลงไป  ลูกน้องก็จะมีลักษณะเปลี่ยนแปลงและเชื่อมั่นได้มากขึ้น  ไว้ใจได้  สามารถที่จะแบ่งความรับผิดชอบให้ลูกน้องได้มากขึ้น  จนสามารถปล่อยให้ดำเนินการเองได้  ส่วนตนจะได้มีเวลาใช้ความคิดพัฒนาผลิตภัณฑ์    ขยายกิจการหรือลงทุนใหม่  ดำเนินกิจการให้ลักษณะมืออาชีพมากกว่าเป็นธุรกิจเครือญาติ  กล้าลงทุนจ้างผู้บริหารมืออาชีพ  รู้จักปรับเปลี่ยนการบริหาร  เพื่อทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ
🎄5.  มีความเชื่อมั่นในตนเอง (Be Self Confident)  ผู้ประกอบการที่จะประสบความสำเร็จมักจะเป็นผู้ที่มีความเชื่อมั่นในความสามารถของตนเอง  มีความเป็นอิสระและรู้จักพึ่งตนเอง  มีความมั่นใจ  มีความเข้มแข็ง เด็ดเดี่ยว  มีลักษณะเป็นผู้นำ  มีความเชื่อมั่นที่จะเอาชนะสิ่งแวดล้อมที่น่ากลัว  มีความทะเยอทะยาน  และไม่ประเมินความสามารถของตนเองสูงเกินไปหรือเชื่อมั่นตนเองมากเกินไป
🎄6.  มีวิสัยทัศน์กว้างไกล (Visionary)  เป็นผู้ที่สามารถวิเคราะห์เหตุการณ์ในอนาคตได้อย่างแม่นยำ และรู้จักเตรียมพร้อมรับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น
🎄7.  มีความรับผิดชอบ (Responsibility)  มีความรับผิดชอบต่องานที่ทำเป็นอย่างดี เป็นผู้นำในการทำสิ่งต่างๆ มักจะมีความริเริ่มแล้วลงมือทำด้วยตนเอง หรือมอบหมายให้ผู้อื่นทำและจะดูแลจนงานสำเร็จตามเป้าหมาย โดยจะรับผิดชอบผลการตัดสินใจ ไม่ว่าผลจะออกมาดีหรือไม่ มีความเชื่อว่าความสำเร็จเกิดจากความเอาใจใส่  ความพยายาม  ความรับผิดชอบ  มิใช่เกิดจากโชคช่วย
🎄8.  มีความกระตือรือร้นและไม่หยุดนิ่ง (Enthusiastic)  มีการทำงานที่เต็มไปด้วยพลัง  มีชีวิตชีวา  มีความกระตือรือร้น  ทำงานทุกอย่างโดยไม่หลีกเลี่ยง  ทำงานหนักมากกว่าคนทั่วไป
🎄9.  ใฝ่หาความรู้เพิ่มเติม (Take New Knowledge)  ถึงแม้ว่าจะมีความเชี่ยวชาญในการทำงาน แต่ความรู้และประสบการณ์ที่มีอยู่ยังไม่เพียงพอ  ควรที่จะหาความรู้เพิ่มเติม โดยเฉพาะความรู้เกี่ยวกับข้อมูลทางการตลาด  เศรษฐศาสตร์  การเมือง  กฏหมายทั้งในและต่างประเทศ  ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้สามารถวิเคราะห์สถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงได้  การหาความรู้เพิ่มเติมสามารถหาได้จากการสัมนา  ฝึกอบรม  อ่านหนังสือ  หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
🎄10.  กล้าตัดสินใจและมีความมานะพยายาม (Can Make Decision And Be Attempt)  มีความกล้าตัดสินใจมีความหนักแน่นไม่หวั่นไหว  เชื่อมั่นในตนเองกับงานที่ทำ  มีจิตใจของนักสู้  ถึงแม้งานจะหนักก็ทุ่มเทสุดความสามารถ  ไม่กลัวงานหนัก เห็นงานหนักเป็นงานท้าทายในการใช้ความรู้  สติปัญญา และความสามรถในการทำงาน   ความมานะและความพยายามเป้นการทุ่มเทชีวิตจิตใจในการทำงาน แข่งขันกับตนเองและแข่งขันกับเวลา  ขวนขวายหาหนทางแก้ปัญหาและอุปสรรคจนประสบความสำเร็จ
🎄11.  สามารถปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อม (Adaptable)  ต้องรู้จักการปรับตัวตามสภาพแวดล้อม  มากกว่าปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามยถากรรม หรือขึ้นอยู่กับโชคหรือดวง
🎄12.  รู้จักประมาณตนเอง (Self Assessment) การรู้จักประมาณตนเองไม่ทำสิ่งเกินตัว ในการทำธุรกิจควรจะเริ่มจากธุรกิจเล็กๆก่อน  และเมื่อกิจการเจริญค่อยเพิ่มทุนและขยายธุรกิจออกไป  จึงจะประสบความสำเร็จ
🎄13.  ประหยัด (Safe For Future)  การดำเนินงานในระยะสั้นจะยังไม่ทันเห็นผล ผู้ประกอบการจะต้องรู้จักประหยัดและอดออม  ต้องรู้จักห้ามใจที่จะหาความสุข  ความสบายในช่วงที่ธุรกิจอยู่ในช่วงตั้งตัว  และต้องดำเนินธุรกิจต่อไปในระยะเวลายาวนานจนกว่าจะบรรลุเป้าหมาย
🎄14.  มีความซื่อสัตย์ (Loyalty)  ต้องมีความซื่อสัตย์ต่อลูกค้าและหุ้นส่วน  ต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับธนาคารด้วยการเป็นลูกหนี้ที่ดี เป็นนายที่ดีของลูกน้อง และต้องมีความซื่อสัตย์ต่อตนเองและครอบครัว
🎇อาชีพที่มีความมั่นคงในชีวิต
หากเปรียบเสาเข็มเป็นรากฐานของตึกสูง ความรู้ที่ได้รับจากการศึกษา ก็คือ พื้นฐานที่จะนำไปใช้ในการประกอบอาชีพ สร้างรายได้และจัดหาปัจจัย 4 อันเป็นสิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิตอยู่อย่างมั่นคง ในการเลือกประกอบอาชีพนั้น ควรพิจารณาจากความถนัด ความสนใจ ความก้าวหน้าในอาชีพ เป็นอาชีพที่สุจริตถูกต้องตามกฎหมาย และควรเป็นงานที่ทำแล้วมีความสุข ได้รับค่าตอบแทนที่เพียงพอกับการดำเนินชีวิต และเลี้ยงครอบครัวได้อย่างเพียงพอ หากทุกคนเลือกอาชีพที่มความมั่นคงต่อชีวิต สังคมก็จะมีความเป็นอยู่ที่ดี เศรษฐกิจก็จะเจริญก้าวหน้าตามไปด้วย

🎇อาชีพที่มีส่วนร่วม และพัฒนาประเทศ
อาชีพ หมายถึง การทำมาหากิน ทำธุรกิจ  ตามความชอบหรือความถนัด  ได้ค่าตอบแทนเป็นค่าจ้าง หรือ เงินเดือน ประชาชนในประเทศที่สามารถมีอาชีพเป็นหลักถือได้ว่าเป็นตัวบ่งชี้ให้เห็นถึงความเจริญก้าวหน้าและพัฒนาประเทศได้
อาชีพที่มีส่วนร่วมพัฒนาประเทศ สามารถแบ่งออกเป็น 8 ประเภท  คือ
🎄1.  อาชีพเกษตรกรรม (Agriculture) เป็นอาชีพหลักของคนไทยมาเป็นเวลาช้านาน ได้แก่ การทำสวน การทำนา ทำไร่ การประมง การเลี้ยงสัตว์ และการป่าไม้
🎄2.  อาชีพเหมืองแร่ (Mineral) เกี่ยวข้องกับการดำเนินกิจกรรม การขุดเจาะนำเอาทรัพยากรธรรมชาติต่างๆมาใช้ เช่น ถ่านหิน  ดีบุก  น้ำมัน และปูนซีเมนต์ ฯลฯ
🎄3.  อาชีพอุตสาหกรรม (Manufacturing) เป็นการดำเนินกิจกรรมทางด้านการผลิตและบริการทั่วๆไปทั้งอุตสาหกรรมขนาดย่อมและขนาดใหญ่ แบ่งได้ดังนี้
- อุตสาหกรรมในครัวเรือน หรือ อุตสาหกรรมขนาดย่อม  เป็นการดำเนินกิจกรรมที่ใช้แรงงานสมาชิกในครอบครัว วัสดุที่ใช้ผลิตหาได้ในท้องถิ่น ผลิตัณฑ์จากภูมิปัญญาท้องถิ่น
🎄4.  อาชีพก่อสร้าง (Construction) เป็นการดำเนินกิจกรรมเกี่ยวกับการสร้างอาคาร ที่อยู่อาศัย ถนน สะพาน เขื่อน ฯลฯ
🎄5.  อาชีพการพาณิชย์ (Commercial) เป็นการดำเนินกิจกรรมเกี่ยวช้องกับการตลาด การจำหน่ายสินค้าปลีก และสินค้าส่ง
🎄6.  อาชีพการเงิน (Financial) การดำเนินกิจกรรมที่ส่งเสริมให้ธุรกิจต่างๆคล่องตัวมากยิ่งขึ้น ให้ความช่วยเหลือและการลงทุน  ได้แก่ ธนาคารต่างๆ
🎄7.  อาชีพบริการ (Services) เป็นการดำเนินกิจกรรมที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ในการอำนวยความสะดวกสบาย เป็นการขนส่ง  การสื่อสาร  การโรงแรม  การท่องเที่ยว  โรงพยาบาล  โรงภาพยนต์  ภัตตาคาร  ร้านอาหาร  สถานบันเทิงต่างๆ ฯลฯ

🎄8.  อาชีพอื่นๆ เป็นอาชีพที่นอกเหนือจากอาชีพดังกล่าวข้างต้น  ได้แก่ อาชีพอิสระต่างๆ เช่น แพทย์ ครู  เภสัช  วิศวกร  สถาปนิก  จิตรกร  ประติมากร  เป็นต้น

🎇ขอขอบคุณ      https://sueheera.weebly.com 

🎇สืบค้นเมื่อวันที่    2   มกราคม   2561  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

การจัดการงานอาชีพ

🎆การจัดการงานอาชีพ🎆 🎇ความหมายของอาชีพ           อาชีพ  คือการทำมาหากินของมนุษย์  เป็นการแบ่งหน้าที่การทำงานของคนในสังคม  และทำให...